วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สธ.ห่วงโรคปอดบวมในเด็กเล็ก–ผู้สูงอายุ พบป่วย 2 ใน 3 ของผู้ป่วยทั้งหมดกว่า 1.2 แสนคน

กระทรวงสาธารณสุข ห่วงโรคปอดบวมในกลุ่มเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ พบป่วยรวมกันกว่า 1.2 แสนคน เกือบ 2 ใน 3  ของผู้ป่วยทั้งหมด เสียชีวิต 300 กว่าราย คาดผู้ป่วยเพิ่มในช่วงฤดูหนาวสะสมทะลุ  2 แสนราย แนะประชาชนให้ดูแลสุขภาพ หากป่วยเป็นไข้หวัด กลุ่มเสี่ยงเช่น เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และผู้สูงอายุ ให้พบแพทย์เพื่อรักษาทันที  กลุ่มทั่วไปหากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ไข้สูงขึ้น ไอ เจ็บหน้าอก หายใจหอบเร็ว ให้รีบพบแพทย์รักษาเช่นกัน ช่วยลดการเสียชีวิตได้
       ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณนายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคปอดบวมประมาณปีละ 2 แสนคน ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 ถึง 30 พฤศจิกายน 2558 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยโรคปอดบวม 192,189 คน  เสียชีวิต 406 ราย โดย ในปี 2557 ตลอดปีพบผู้ป่วย 200,710 คน เสียชีวิต 893 ราย ในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวในบางพื้นที่ เช่นภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวเย็น มีลมแรง ประชาชนป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจมากขึ้นและโรคปอดบวมจะเป็นภาวะแทรกซ้อนตามมา คาดว่าตลอดฤดูหนาวจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ยอดผู้ป่วยทั้งประเทศจะสูงขึ้นกว่า 2 แสนคน
       โดยผู้ป่วยและเสียชีวิตพบได้ทุกวัย  มากสุดในกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ พบป่วยรวมกัน 122,279 คน หรือเกือบ  2 ใน 3 ของผู้ป่วยทั้งหมด เสียชีวิต 301 ราย โดยกลุ่มเด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิด-3 ปี พบป่วย 61,786 คน เสียชีวิต 11 ราย กลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป พบป่วย 60,493 คน เสียชีวิต  301 ราย กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ เร่งรณรงค์ให้ประชาชนดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หากป่วยด้วยโรคไข้หวัดให้รีบรักษาและระวังโรคแทรกซ้อนปอดบวมซึ่งเป็นโรคติดเชื้อระบบหายใจชนิดรุนแรง อัตราการเสียชีวิตสูง เกิดได้ทั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัส อาการของโรคคือ มีไข้ ไอจาม มีน้ำมูก เจ็บคอ จากนั้นจะเริ่มหายใจเร็วและลำบาก เหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีการหนาวสั่น ซึม อาเจียน เชื้อโรคจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูกน้ำลายของผู้ป่วยและติดต่อกันทางไอจาม
       นายแพทย์โสภณ  เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กลุ่มที่มีความเสี่ยงป่วยโรคปอดบวม ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เด็กน้ำหนักตัวน้อย เด็กขาดสารอาหาร ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี โรคหัวใจ โรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง และผู้สูงอายุ ขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมีภูมิต้านทานต่ำอาการรุนแรงกว่ากลุ่มอื่น หากป่วยเป็นไข้หวัดขอให้พบแพทย์ทันที ส่วนผู้ป่วยกลุ่มทั่วไปขอให้นอนพักผ่อนให้มาก รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย สวมหน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนอื่น หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน มีไข้สูง หายใจเหนื่อยหอบ ให้รีบพาไปพบแพทย์เพื่อรักษาทันที จะช่วยลดการเสียชีวิตได้
       ขอให้ประชาชนทั่วไปและผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ยึดหลักกินอาหารปรุงสุกร้อน ใช้ช้อนกลาง และหมั่นล้างมือ ฟอกสบู่บ่อยๆ ก่อนรับประทานอาหารและภายหลังหยิบจับสิ่งของ หรือจับราวบันได ปุ่มลิฟต์ ลูกบิดประตู  ภายหลังจากการใช้ห้องน้ำห้องส้วม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ครั้งละ 30 นาที  ช่วงอากาศหนาวเย็นขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน-ผู้สูงอายุ ให้สวมเสื้อผ้าหนาๆ ให้ความอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ ประชาชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - แสดงเชิงสัญลักษณ์ ในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล

ผู้ว่าฯ หนองคาย ร่วมแสดงเชิงสัญลักษณ์ ในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) จังหวัดหนองคาย
       วันนี้ (9 ธ.ค.58) เวลา 09.00 น. นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นำกลุ่มพลังมวลชนจังหวัดหนองคาย ร่วมกันต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน โดยการสวมเสื้อสีขาวเดินรณรงค์เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย)
       ทั้งนี้ เวลา 08.00 น. กลุ่มพลังมวลชนในจังหวัดหนองคาย นำโดยหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรเครือข่ายภาคีต่างๆ นักเรียน นักศึกษา ประมาณ 1,000 คน ได้เดินรณรงค์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน จากลานน้ำพุพญานาค มาตามถนนประจักษ์ถึงวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง)
       จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้นำกลุ่มพลังมวลชนแสดงเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านคอร์รัปชั่น  พร้อมทั้งมอบนโยบายแก่กลุ่มพลังมวลชนที่ร่วมกิจกรรม จากนั้นร่วมชมการถ่ายทอดสดการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตจากส่วนกลาง โดย ฯพณฯ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี การแถลงสารเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล โดย ผู้แทนจากองค์การสหประชาชาติ ซึ่งถ่ายทอดจากส่วนกลาง โดย สถานีวิทยุโทรทัศน์ NBT
       หลังจากนั้นได้มอบใบประกาศเกียรติบัตร แก่นักเรียนในการประกวดสุนทรพจน์ และเรียงความ ซึ่งมี 3 ระดับ คือ ระดับชั้นประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั้งนี้ ก่อนเสร็จสิ้นพิธีผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายได้แสดงความชื่นชมยินดีกับเด็กนักเรียนที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ด้วย.

หนองคาย - หน่วยงานความมั่นคง อ.สังคม ตรวจยึดกัญชาอัดแท่ง 166 กิโลกรัม นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านรอส่งพ่อค้าไทย

นายอำเภอสังคม บูรณาการหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ตรวจยึดกัญชาอัดแท่ง น้ำหนัก 166 กิโลกรัม ที่มีผู้ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรอส่งให้พ่อค้าคนไทย
       วันที่ 9 ธ.ค. 58 เวลา 09.00 น. ที่บริเวณด้านหน้า สภ.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย นายนพดล วิริยะยุทธ นายอำเภอสังคม , พ.ต.อ.สุรวุฒิ อุรัจฉัท ผกก.สภ.สังคม , นายยงเวทย์  ศรีจันทร์ทอง หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอสังคม พร้อมเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอสังคม ชุด ชรบ.บ้านผาตั้ง หมู่ 1 ต.ผาตั้ง อ.สังคม และ เจ้าหน้าที่ ตชด.245 ร่วมกันแถลงการตรวจยึดกัญชาแห้งอัดแท่ง น้ำหนัก 166  กิโลกรัม  ที่บรรจุมาในถุงหัวอาหารปลา และสวมทับด้วยถุงพาสติกสีดำอีกชั้น จำนวน 5 กระสอบ  ได้ที่บริเวณ ริมฝั่งโขงท้ายหมู่บ้าน บ้านผาตั้ง หมู่ที่ 1 ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย

       การตรวจยึดครั้งนี้ นายนพดล วิริยะยุทธ นายอำเภอสังคม เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสายว่า จะมีการลักลอบนำยาเสพติดข้ามมายังประเทศเพื่อนบ้านและนำมาขึ้นฝั่งที่บริเวณ บ้านผาตั้ง หมู่ที่ จึงได้สั่งการให้ นายยงเวทย์  ศรีจันทร์ทอง หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอสังคม พร้อมเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอสังคม ชุด ชรบ.บ้านผาตั้ง หมู่ 1 ต.ผาตั้ง อ.สังคม ออกลาดตระเวน ในขณะที่กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้ตรวจพบสิ่งของต้องสงสัยวางอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง จำนวน  5 ถุง จึงได้แจ้งให้ นายนพดล วิริยะยุทธ นายอำเภอสังคม ทราบ และสนธิกำลังหน่วยเกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าตรวจสอบ พบเป็นกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวนดังกล่าว จึงได้ตรวจยึด และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังคม เพื่อดำเนินการพร้อมจะได้ติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - จังหวัดหนองคาย จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่มีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการทุจริตและต้องการให้คนไทยไม่โกง

       วันที่ 8 ธ.ค.58 ที่วัดโพธิ์ชัย(พระอารามหลวง) อำเภอมือง จังหวัดหนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล โดยสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดหนองคาย จัดให้มีขึ้น
       สืบเนื่องจากวันที่ 9 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ประเทศไทยในฐานะหนึ่งในประเทศภาคีสมาชิกสหประชาชาติ ซึ่งมีสำนักงาน ป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระที่ปฏิบัติภารกิจหลักในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตผ่านกลไกต่าง ๆ ได้ร่วมกับรัฐบาลและภาคีเครือข่าย ภาคการศึกษา ศาสนา รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน เยาวชน และภาคประชาสังคม จัดงานวันคอร์รัปชันสากล(ประเทศไทย) ระหว่างวันที่ 8 – 9 ธันวาคม 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงเจตนาคมณ์ของผู้นำการเมืองที่มีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการทุจริตและต้องการให้คนไทยไม่โกง
       โดยมีเป้าหมายการดำเนินงานเพื่อยกระดับค่าดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเครือข่ายบูรณาการแผนงาน โครงการ กิจกรรมให้เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ มีเอกภาพ มีเป้าหมายที่ชัดเจน สามารถบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมทั้งสามารถนำไปจัดทำแผนปฏิบัติการของแต่ละหน่วยงาน เพื่อดำเนินการในส่วนที่มีหน้าที่รับผิดชอบ และเพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความสุขให้กับประชาชน ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสร้างความตระหนักในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สร้างค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริต และน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต
       ภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมแสดงปาฐกถาธรรม , การประกวดเรียงความและกล่าวสุนทรพจน์ของนักเรียน , การออกบูทนิทรรศการต้านโกง และบูทนิทรรศการจากภาคีภาคส่วนต่างๆ 

หนองคาย - จังหวัดหนองคาย ประชุมติดตามความก้าวหน้าการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ "ปันเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD"

        วันที่ 8 ธ.ค.58 เวลา 14.00 น. ที่ห้อง POC ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าฯ หนองคาย เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 "ปันเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD"  ผู้ว่าฯ เน้นเรื่องความปลอดภัยของผู้ปั่นจักรยานเป็นอันดับแรก
       นอกจากนี้ให้ตรวจสอบเรื่องความเรียบร้อยของป้ายประชาสัมพันธ์ , ธง ให้ติดตั้งให้เหมาะสม สมพระเกียรติทั้งนี้เส้นทางสิริมงคลจังหวัดหนองคาย มีระยะทาง 29.99 กม. ปั่นผ่านสถานที่สำคัญ 9 แห่ง เริ่มจากอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ ลานน้ำพุพญานาค ปั่นผ่านซุ้มพญานาคเลี้ยวซ้ายไปตามถนนหนองคาย-โพนพิสัย ผ่านวัดทุ่งสว่าง วัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) ตรงไปสถานีตำรวจภูธรจังหวัด เลี้ยวกลับบริเวณหน้า ตชด.245 ผ่านวัดเนินพระเนาว์ ตรงไปสี่แยกซุ้มพญานาค สามแยกสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ผ่านวัดจันทร์สามัคคี สามแยกมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย(สามแยกการเคหะฯ) เลี้ยวซ้ายตามเส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 233 ผ่านวัดพระธาตุราษฎร์บำรุง ศาลหลักเมือง ศาลากลางจังหวัด(หลังใหม่) และตรงไปสิ้นสุด ณ ศาลากลางจังหวัด (หลังเก่า)บริเวณลานเฉลิมพระเกียรติฯ(ลานน้ำพุพญานาค) และขอเชิญชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ การแสดงบนเวทีกลาง
       จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวขอบคุณประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม นำผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ กล่าวถวายพระพร และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จนถึงเวลา 19.30 น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ
       ทั้งนี้ การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ มีจำนวน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-13 ธันวาคม 2558 จึงขอเชิญประชาชนชาวหนองคายร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD และชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวโดยทั่วกัน.

หนองคาย - นรข.เขตหนองคาย จับรถตู้ 2 คันขนไม้พะยูง มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านบาท

นรข.เขตหนองคาย สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับรถตู้ 2 คันขนไม้พะยูง จำนวน 114 ท่อน/เหลี่ยม มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านบาท สารภาพรับจ้างขับรถมาส่งของได้ค่าจ้าง 10,000 บาท
      วันที่ 6 ธ.ค. 58  ที่ กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตหนองคาย อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายไพฑูรย์ จิตต์สุทธิผล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ นาวาเอกสุชาติ อุดมนาค ผบ.นรข.เขตหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายพร บัวหอม อายุ 37 ปี เลขที่ 121 ม.9 ต.บ้านกอก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ พร้อมของกลางไม้พะยูง จำนวน 51 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 0.620 ลบ.ม. ซุกซ่อนภายในรถยนต์ตู้โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮย 3725 กทม.ที่ดัดแปลงถอดเบาะนั่งด้านหลังออกหมด ก่อนจะซุกไม้พะยูงจำนวนดังกล่าวแล้วขับมาส่งลูกค้าในพื้นที่
       การจับกุมครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ นรข.เขตหนองคาย ได้เฝ้าติดตามขบวนการค้าไม้พะยูง และสืบทราบมาว่า จะมีการขนไม้พะยูงเข้ามาในพื้นที่บริเวณบ้านหนองบัวเงิน ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย เมื่อถึงเวลาประมาณ 03.30 น.วันที่ 6 ธ.ค. ตามที่ได้รับแจ้ง พบรถตู้โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮพ 1165 กทม.วิ่งเข้ามา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น ปรากฏว่า คนขับรถตู้คันดังกล่าวไหวตัวทันอาศัยความมืดจอดรถทิ้งไว้ และหลบหนีไปได้ ตรวจสอบภายในพบไม้พะยูง จำนวน 62 แผ่น
       ในเวลาใกล้เคียงกัน มีรถยนต์ตู้สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮย 3725 กทม.วิ่งตามเข้ามา ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวตรวจค้น และพบว่ามีนายพร บัวหอม เป็นคนขับ จึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย จากการสอบถามนายพร ทราบว่า ตนได้รับว่าจ้างจากนายทิศ ไม่ทราบนามสกุล ชาว จ.ชัยภูมิ ซึ่งโทร.มาติดต่อให้ตนขับรถมาส่งของ โดยตกลงว่าจ้างในราคา 10,000 บาท แต่จ่ายค่าจ้างให้ก่อนเดินทาง 5,000 บาท
       เมื่อทำงานเสร็จจึงจะได้อีก 5,000 บาท โดยบอกให้ตนขับมาส่งของในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ออกเดินทางจาก จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่เวลา 00.30 น. มาถึงหนองคาย 03.30 น.เมื่อมาถึงนายทิศ ก็โทร.หาบอกให้ตนขับรถไปจอดบริเวณป่าละเมาะติดกับทุ่งนาบ้านหนองบัวเงิน ต.สระใคร จ.หนองคาย เมื่อถึงแล้วให้รอโทรศัพท์เดี๋ยวจะมีคนโทร.หาเพื่อบอกตนให้เอาของไปส่งที่ไหน เวลาใดอีกครั้ง จากนั้นตนจึงขับรถไปยังจุดที่แจ้งเข้ามาก็พบว่า มีเจ้าหน้าที่ยืนดักรอ และขอตรวจค้นจับกุมตัวดังกล่าว
       ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกคนที่ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวมาสอบสวนด้วยคือ นายคำปุ่น อุบลหลง อายุ 37 ปี เลขที่ 173 ม.2 ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่า ท่าทางมีพิรุธ และจุดที่มีการนัดหมายจอดรถ คือ บริเวณทุ่งนาของนายคำปุ่น จึงควบคุมตัวมาสอบสวน  โดยนายคำปุ่น บอกว่าตนมาอาศัยอยู่ทุ่งนาแห่งนี้ และมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงเพาะพันธุ์ไก่ชนขายเท่านั้น ซึ่งตนไม่รู้จักนายพร คนขับรถตู้นี้เลย และไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน อยู่ดีๆ เขาก็ขับรถเข้ามาจอดในพื้นที่ของตนซึ่งงงมาก และไม่รู้เรื่องไม้เหล่านี้อีกด้วย
       ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 พร้อมของกลาง ไม้พะยูง จำนวน 114 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตรรวม 2.045 ลบ.ม. มูลค่า 1,500,000 บาท ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สระใคร เจ้าของพื้นที่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - เทศบาลเมืองท่าบ่อ ร่วมกับชุมชนสระแก้วร่วมใจพัฒนา หมู่ 11 จัดทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล เปลี่ยนกองขยะเป็นกองบุญ โดยให้ชาวบ้านนำเศษขยะมาบริจาคแทนเงิน

       วันนี้ (2 ธ.ค. 58) ที่ วัดสระแก้ว เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ จ.หนองคาย นายประภาส นครภักดี นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ พร้อมคณะผู้บริหาร ปลัดเทศบาล เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม พนักงาน ลูกจ้าง และประชาชนชุมชนสระแก้วร่วมใจพัฒนา หมู่ 11 ได้จัดกิจกรรมทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล ซึ่งมีชาวบ้านในชุมชนสระแก้วร่วมใจพัฒนา หมู่ 11 และชุมชนพื้นที่ใกล้เคียง  ได้นำขยะและสิ่งของเหลือใช้ไปร่วมทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล เช่น ขวดแก้ว ขวดพลาสติก และเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อเป็นการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนทั่วไปใส่ใจคัดแยกขยะที่ยังมีประโยชน์นำกลับไปใช้ใหม่ ลดปัญหาปริมาณขยะล้นเมือง

       ทั้งนี้ เทศบาลเมืองท่าบ่อ โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้มีการขับเคลื่อนนโยบายการจัดการขยะมูลฝอยให้เป็นรูปธรรม โดยได้กำหนดจัดอบรมและรณรงค์สร้างจิตสำนึกการคัดแยกขยะในครัวเรือน จัดให้มีการทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล เปลี่ยนขยะเป็นกองบุญ ประชาชนได้เห็นคุณค่าของขยะ หรือสิ่งของที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในครัวเรือนที่สามารถนำถวายยังวัดได้ อีกทั้งยังเป็นการทะนุบำรุงเสนาสนะสถานบริเวณวัดในเทศบาลฯ โดยมียอดถวายจตุปัจจัย 26,610 บาท ยอดขายขยะรีไซเคิล 5,800 บาท มียอดรวมถวายวัดสระแก้วทั้งสิ้น 32,410 บาท

หนองคาย - ชายชาวหนองคาย ปั่นจักรยานประดับธง ภปร.ขนาดใหญ่ พร้อมพร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รณรงค์ปั่นเพื่อพ่อทุกวัน

ชายชาวหนองคาย ปั่นจักรยานคู่ใจสีเหลืองประดับธงตราสัญลักษณ์ ภปร. ขนาดใหญ่ พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รณรงค์ปั่นทุกวันระยะทาง 50 กม. เพื่อปลุกจิตสำนึกและรณรงค์ให้ประชาชนแสดงออกถึงความจงรักภักดี และเข้าร่วมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ปั่นเพื่อพ่อ 11 ธ.ค.นี้ โดยเน้นรณรงค์ปั่นฯเข้าไปในส่วนราชการและตามโรงเรียนต่างๆ
       นางสาวสุภาพ นพเก้า นักประชาสัมพันธ์ ชำนาญการ รักษาราชการแทนประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย ได้รับแจ้งว่า ที่ ถนนมิตรภาพ สายหนองคาย-อำเภอโพนพิสัย จะพบ นายธนัตชัย วิชัยดิษฐ อายุ 44 ปี ชาวบ้านโคก อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ปั่นจักรยานสีเหลือง ติดธงตราสัญลักษณ์ ภปร.ขนาดใหญ่ ตะกร้าด้านหน้าจักรยานมีพระบรมฉายาลักษณ์ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดช สวมใส่เสื้อปั่นเพื่อพ่อ Bike for Dad สวมหมวกสีเหลือง บนหมวกติดธงตราสัญลักษ์ ภปร.
       ซึ่ง นายธนัตชัย วิชัยดิษฐ กล่าวว่า ตนได้ปั่นจักรยานร่วมกิจกรรม ปั่นเพื่อแม่ ซึ่งจักรยานเป็นสีฟ้า หลังจากได้ทราบข่าวจะมีกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช Bike for Dad ปั่นเพื่อพ่อ ตนจึงได้ตกแต่งรถจักรยานคู่ใจ เป็นสีเหลือง นำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ประดับไว้ตะกร้าหน้ารถจักรยาน ติดธงตราสัญลักษณ์ ภปร.ขนาดใหญ่ ขนาด 2x3 เมตร ไว้ด้านหลัง และสวมหมวกสีเหลืองติดธงชาติและธง ภปร.
       โดยตนได้เริ่มปั่นตั้งแต่ทราบว่ามีกิจกรรม Bike for Dad ปั่นเพื่อพ่อ ทุกวัน เช้า-เย็น (2 รอบ) จากบ้านโคก ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย เข้าไปยังตัวอำเภอโพนพิสัย และเน้นเข้าไปยังสถานที่ราชการ และโรงเรียน ระยะทางปั่นฯ ไปกลับ ประมาณวันละ 50 กม. เพื่อเป็นการรณรงค์ปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเชิญชวนให้ประชาชนได้แสดงออกในการเข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ Bike for Dad ปั่นเพื่อพ่อ ในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ พร้อมกันทั่วประเทศ จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนออกมาปั่นจักรยานร่วมกันให้มากๆ หากใครไม่สามารถไปร่วมปั่นจักรยาน ในวันที่ 11 ธ.ค.ได้ ก็อยากให้พี่น้องประชาชนปั่นในหมู่บ้านหรือชุมชนที่ตนเองอยู่ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช


จารุวรรณ สมคะเณย์ ส.ปชส.หนองคาย ภาพ/ข่าว

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นำข้าราชการพลพ่อค้าประชาชนและผู้พิการ ร่วมจัดซ้อมใหญ่กิจกรรมจักรยาน “ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD”

          วันนี้( 29 พ.ย.58) เวลา 15.00 น. จังหวัดหนองคาย จัดซ้อมใหญ่กิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิม พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD” โดยมีผู้มาลงทะเบียนปั่นจักรยาน จำนวน 819 คน เข้าร่วมซ้อมปั่นไปตามเส้นทางจริงที่กำหนดไว้ รวมระยะทาง 29.99 กิโลเมตร นำโดยนายสุชาติ นพวรรณ  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ผู้พิการ เยาวชน และเด็กนักเรียน
       โดยขบวนออกจากหน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย (หลังเก่า) บริเวณลานเฉลิมพระเกียรติฯ (ลานน้ำพุพญานาค) อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ตามเส้นทาง สิริมงคลของจังหวัดรวมระยะทาง 29.99 กิโลเมตร  ผ่านสถานที่สำคัญ 9 จุด  (จุดเริ่มต้น-จุดสิ้นสุด ณ ศาลากลางจังหวัด (หลังเก่า)จากจุดเริ่มต้น สถานที่สำคัญ จุดที่ 1 อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ  ผ่านซุ้มพญานาค เลี้ยงซ้ายไปตามถนนหนองคาย-โพนพิสัย ผ่านสถานที่สำคัญจุดที่ 2 วัดทุ่งสว่าง ตรงไปผ่านสถานที่สำคัญที่ 3 วัดโพธิ์ชัย ตรงไปผ่านตรวจภูธรจังหวัด วกกลับบริเวณหน้า ตชด.245 ผ่านสถานที่สำคัญจุดที่ 4 วัดเนินพระเนาว์  ผ่านสี่แยกซุ้มพญานาค ผ่านสามแยกสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ผ่านสถานที่สำคัญจุดที่ 5 วัดจันทร์สามัคคี ผ่านสามแยกมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย (สามแยกการเคหะฯ) เลี้ยวซ้ายตามเส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 233 ผ่านสถานที่สำคัญจุดที่ 6 วัดพระธาตุราษฎร์บำรุง ผ่านสถานที่สำคัญจุดที่ 7ศาลหลักเมือง ผ่านสถานที่สำคัญจุดที่ 8 ศาลากลางจังหวัด  (หลังใหม่) และตรงไปสิ้นสุด ณ สถานที่สำคัญจุดที่ 9 ศาลากลางจังหวัด (หลังเก่า)
       การซ้อมปั่นวันนี้ เพื่อ หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะได้รวบรวมข้อมูลที่ได้นำมาประชุมปรึกษาหารือร่วมกัน เพื่อวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรค และข้อบกพร่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขให้เกิดความสมบูรณ์มากที่สุด ทั้งในเรื่องของการจัดรถนำขบวน รถประชาสัมพันธ์ ขบวนจักรยาน การดูแลด้านความปลอดภัย การจราจร ตลอดเส้นทาง
       โดยเฉพาะตามทางแยก จุดกลับรถ และซอยต่างๆ การจัดหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ การจัดชุดซ่อมบำรุงเก็บจักรยาน การให้บริการน้ำดื่ม การติดต่อสื่อสาร การบันทึกภาพ เป็นต้น สำหรับวันจัดกิจกรรมจริงคือวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2558 เวลา 15.00 น. โดยจังหวัดหนองคาย มีผู้ลงทะเบียนปั่นไว้ จำนวน 5,280 คน           

หนองคาย - ด่านศุลกากร รวบ 2 หนุ่มใหญ่ ซุกยาบ้าในเป้ากางเกงและในทวารหนัก

เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวบ 2 หนุ่มใหญ่ ซุกยาบ้าในเป้ากางเกง และในทวารหนัก  สารภาพซื้อมาจากชาวลาว ในราคา 18,000 เม็ด พึ่งทำเป็นครั้งแรก
       วันที่ 28 พ.ย. 58 ที่ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมืองหนองคาย นายรัชพล อ่อนนิ่ม หัวหน้าฝ่ายควบคุมทางศุลกากรหนองคาย รักษาการนายด่านศุลกากรหนองคาย นายสมบัติ  ฆ้อนทอง ฝปป.ด่านศุลกากรหนองคาย ร่วมกับชุดสกัดกั้นยาเสพติดประจำด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ได้ร่วมกันจับกุม นายทองสุข   อายุ  30 ปี ,นายสันติ   เถาอินทร์ปาก  อายุ 38  ปี ทั้งสองเป็นชาว อ.โกสุมพิสัย จงมหาสารคาม พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 397 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้า พันด้วยเทปกาวสีดำที่ซุกซ่อนมาในเป้ากางเกงด้านหน้า และซุกซ่อนมาในทวารหนัก
       การจับกุมครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามปกติ  ได้ตรวจรถยนต์ที่ผ่านช่องทางตรวจรถยนต์(A6) พบทั้งสองนั่งมาในรถมีพิรุธอาการตกใจ จึงได้เรียกตรวจ พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณเป้ากางเกงด้านหน้า ของนายทองสุขฯ จึงได้ตรวจสอบพบเป็นยาบ้าจำนวน  1 ห่อ บรรจุในถุงพลาสติกพันด้วยเทปกาวดำ  และได้นำตัวนายทองสุขฯ เข้าตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์ พบก้อนวัสดุต้องสงสัย 1 ห่อ ที่ในทวารหนัก จึงให้ขับถ่ายออกมา พบเป็นยาบ้า จำนวน 197 เม็ด
       จากการสอบสวนเบื้องต้น  ทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ได้ข้ามไปซื้อยาบ้ากับผู้หญิงลาว ชื่อ นางน้อย (ไม่ทราบนามสกุล) ที่บริเวณตลาดเช้านครหลวงเวียงจันทน์ ในราคา 18,000 บาท เพื่อจะนำไปจำหน่ายในพื้นที่บ้านตนเอง  จากนั้นจึงพากันข้ามกลับมาแต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ และพึ่งทำเป็นครั้งแรก
       เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จากนั้นจึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - ตรวจยึดกัญชาในถุงอาหารปลา 225 กิโลกรัม

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย แถลงข่าวตรวจยึดกัญชาซุกอยู่ในถุงอาหารปลา 225 กิโลกรัม คาดว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้านนำเข้าไทย
       วันนี้ (ต.ค. 58) ที่หน้ากองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.สังคม จ.หนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายนภดล วิริยะยุทธ นายอำเภอสังคม, พ.ต.อ.สุรวุฒิ อุรัจฉัท ผกก.สภ.สังคม พร้อมชุดสนธิกำลังอำเภอสังคม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดกัญชา จำนวน 225 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 225 กก. มูลค่าประมาณ 2.7 ล้านบาท ตรวจยึดได้ที่ริมแม่น้ำโขงบ้านน้ำไพร หมู่ที่ 5 ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย
       สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.20 น.วันที่ 2 ตุลาคม 58 นายนภดล วิริยะยุทธ นายอำเภอสังคม พร้อมชุดสนธิกำลังอำเภอสังคม ได้ออกปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้ายาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายตามชายแดนแม่น้ำโขง
       จนกระทั่งมาถึงบริเวณริมแม่น้ำโขงบ้านน้ำไพร หมู่ที่ 5 ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย ได้พบมีกลุ่มชายประมาณ 4 - 5 คน กำลังยืนโบกยนต์กระบะสีขาวไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อ ให้ถอยหลังลงริมฝั่งแม่น้ำโขงคล้ายกับจะทำการขนสิ่งของบางอย่าง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวจะเข้าตรวจค้น กลุ่มชายได้วิ่งและกระโดดลงแม่น้ำโขงหลบหนีไปได้ ส่วนรถกระบะได้ขับหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบพบถุงดำขนาดใหญ่ 5 ถุง ภายในถุงมีกระสอบอาหารปลา ที่มีกัญชาซุกซ่อนอยู่ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ทั้งหมด
       สำหรับกัญชาที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ คาดมาจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อนำส่งไปยังตอนในประเทศไทย ซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบของกลางให้กับพนักงานสอบสวน สภ.สังคม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป.

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - ด.ญ.วัย 1 ปี 8 เดือน ถูกกิ๊กแม่ทารุณทางเพศจนตาย แม่กลับพาชู้หลบหนี

สาววัย 23 ปี สามีถูกเรียกประจำการทหารกองเกิน จึงพาลูกสาววัย 1 ปี 8 เดือนไปหากิ๊กหนุ่ม เปิดห้องรีสอร์ทก่อนออกไปซื้อของ ให้ลูกอยู่กับกิ๊ก และถูกทารุณทางเพศทางทวารหนัก กลับมาพบลูกอาการร่อแร่ รีบพาส่งโรงพยาบาล สุดท้ายเด็กเสียชีวิต ซ้ำหลังเกิดเหตุแอบพากิ๊กหนี ถูกตำรวจหนองคายตามรวบได้ทันควัน แต่ยังปากแข็งไม่ยอมรับผิด
       วันนี้( 30 ก.ย.) พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์ ผกก.สภ.เมือง จ.หนองคาย พ.ต.อ.ปรีดา ดวงพุทธา พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ วงษ์สนิทธีรา รองผกก.สส. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ สว.สส. ร.ต.ท.กฤษณะ ธรรมจิตร พนักงานสอบสวน ได้ร่วมกันสรุปแนวทางติดตามคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัย 1 ปี 8 เดือน จนเด็กเสียชีวิต
       สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 06.00 น. วานนี้(29 ก.ย.)ได้มีญาติของ ด.ญ.แอน (นามสมมุติ) วัย 1 ปี 8 เดือน เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่าน้องแอน ถูกทารุณกรรมทางเพศจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีแผลฉีกขาดทางทวารหนัก และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหนองคาย ในเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 29 ก.ย. โดยสงสัยว่านายป๊อบ หรือ นายนพรัตน์ รูปสวย อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 4 ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับ น.ส.พัชรี(ขอสงวนนามกุล-ที่อยู่)มารดาของน้องแอนเป็นผู้กระทำ เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบ และทราบว่าทั้งนายนพรัตน์และน.ส.พัชรี หลบหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว
       จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.40 น. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ ได้ติดตามจับกุม น.ส.พัชรี ได้ที่ศาลาริมทางถนนมิตรภาพหนองคาย-อุดรธานี เขตอ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และติดตามจับกุมนายนพรัตน์ ได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จึงคุมตัวมาสอบสวน โดยได้นำตัวทั้งสองคนตรวจดีเอ็นเอ
       พ.ต.อ.อภิศักด์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ เนื่องจากผู้ถูกกระทำเป็นเด็กหญิง โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตจากการติดเชื้อในช่องท้อง และได้นำศพไปตรวจพิสูจน์ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งรอขั้นตอนการสอบสวน แต่เบื้องต้นนายนพรัตน์ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ จึงต้องรอผลการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ร่วมด้วย
       พ.ต.อ.ปรีดา กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ซึ่ง น.ส.พัชรีมาเปิดห้องเช่าตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อนัดพบกับนายนพรัตน์ ซึ่งทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันแบบลับๆ ขณะที่พ่อของน้องแอนถูกเรียกเข้าประจำการเป็นทหารกองเกินที่ศูนย์ฝึกทหารใหม่สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยครั้งนี้ได้พาน้องแอนมาพักด้วย จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบคราบเลือดบนฟูกที่นอน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
       สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุนายนพรัตน์ ใช้ให้ น.ส.พัชรีออกไปซื้อของข้างนอก หลังจากนั้นนายนพรัตน์ได้พาน้องแอนเข้าไปในห้องน้ำ แล้วเปิดก๊อกน้ำเสียงดังเป็นเวลานาน จากนั้นก็พาน้องแอนออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่เด็กไม่ใส่เสื้อผ้า แล้วพาไปนอนบนที่นอน เมื่อน.ส.พัชรี กลับมาพบว่าลูกสาวมีอาการตัวแข็งและหมดสติ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 29 ก.ย. จากนั้น น.ส.พัชรี ได้ย้อนกลับไปหานายนพรัตน์ แล้วพากันหลบหนี
       จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมในที่สุด แต่ทั้งสองคนยังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพยานแวดล้อมน่าเชื่อว่านายนพรัตน์จะกระทำทารุณทางเพศเด็กหลายครั้ง เนื่องจากเมื่อเด็กเห็นนายนพรัตน์จะมีอาการหวาดกลัว มักจะร้องไห้เสียงดัง ไม่อยากเข้าใกล้ ประกอบกับพบการติดเชื้อในช่องท้อง จึงเป็นเหตุเชื่อได้ว่าอาจจะมีการกระทำชำเราเด็กมาสักระยะหนึ่งแล้ว

       เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายนพรัตน์กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ส่วนน.ส.พัชรี ยังไม่ได้แจ้งข้อหา ต้องรอสอบสวนเพิ่มเติมก่อน. 

หนองคาย - แก๊งปาหินออกอาละวาท

รถบรรทุกสินค้าจอดริมทางรอข้ามฝั่งลาว ถูกวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์มาปาหินใส่รถเสียหาย 3 คัน คาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง
       วันที่ 28 ก.ย. 58 เวลา 21.00 น.  ร.อ.จำนงแสงกุดเรือ นายทหารยุทธการ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัดหนองคาย (กกล.รส.จว.นค.) ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดตรวจสินค้าของด่านศุลกากร ถนนเสด็จ ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย ว่ามีเหตุแก๊งวัยรุ่นใช้ก้อนหินขว้างใส่รถบรรทุกสินค้าที่จอดอยู่หน้าศุลกากรหนองคาย จนได้รับความเสียหาย
       จึงสั่งการให้ จ.ส.อ.พิเชษฐ์ เชิดชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ กกล.รส.จว.นค. หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย พร้อมประสานพนักงานสอบสวน และกำลังตำรวจ สภ.เมืองหนองคายออกไปตรวจสอบ
       พบรถบรรทุกขนส่งสินค้าไปยัง สปป.ลาว จอดริมถนน 3 คัน ถูกปาด้วยก้อนหินขนาดใหญ่จนได้รับความเสียหาย คันแรกเป็นรถเทลเลอร์ หมายเลขทะเบียน 70-1538 อุดรธานี ได้รับความเสียหายที่กระจกมองข้างด้านขวาแตกละเอียด คันที่ 2 เป็นรถเทลเลอร์ หมายเลขทะเบียน 70-6562 ขอนแก่น ได้รับความเสียหายที่ตัวถังด้านหลังคนขับบุบ และคันที่ 3 เป็นรถบรรทุก 10 ล้อ ได้รับความเสียหายที่กระจกมองข้างด้านขวาแตกละเอียดเช่นกัน
       จากการสอบถามนายถัน เสนานุช อายุ 57 ปี อยู่บ้านหมู่ 6 ต.โพธิ์ศรีสำราญ อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี คนขับรถขนส่งสินค้าหมายเลขทะเบียน 70-1538 อุดรธานี และนายอาณัฐ กวนสีรัก อายุ 30 ปี อยู่บ้านหมู่1 ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ให้การว่า ได้จอดรถเพื่อพักผ่อนและรอตรวจสินค้าตามขั้นตอนทางศุลกากรในช่วงเช้าขนส่งสินค้าไปยัง สปป.ลาว  มีวัยรุ่น 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดทะเบียน และจำสีไม่ได้
       เมื่อวันรุ่นขับขี่ถึงจุดที่จอดรถ คนที่นั่งซ้อนท้ายได้ลุกขึ้นขว้างก้อนหินเข้าใส่รถบรรทุกสินค้าได้รับความเสียหาย แล้วเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร จึงเก็บก้อนหินไว้เป็นหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามวัยรุ่นทั้ง 2 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

หนองคาย - ประกวดบทความคำขวัญ "มาตรการความปลอดภัยทางถนน ทางรอดของชีวิต"

ขนส่งจังหวัดหนองคาย ประกาศผลการประกวดบทความคำขวัญ "มาตรการความปลอดภัยทางถนน ทางรอดของชีวิต" ตามโครงการบูรณาการสร้างองค์กรต้นแบบความปลอดภัยทางถนน จ.หนองคาย
       วันที่ 28 ก.ย.58 ที่โรงแรมบุศยรินทร์ อ.เมือง จ.หนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานพิธีประกาศผลการคัดเลือกหน่วยงานต้นแบบความปลอดภัยทางถนนจังหวัดหนองคาย ประกาศผลการประกวดบทความคำขวัญ "มาตรการความปลอดภัยทางถนน ทางรอดของชีวิต" พร้อมมอบใบประกาศเกียรติคุณ เกียรติบัตร มอบรางวัล และจัดนิทรรศการฯ ตามโครงการบูรณาการสร้างองค์กรต้นแบบความปลอดภัยทางถนนจังหวัดหนองคาย โดยมี นายอโณทัย ธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายกล่าวรายงาน และนายสมหวัง ทองขาว ขนส่งจังหวัดหนองคาย นายพีระพล ยังขาว ปภ.จ.หนองคาย และหน.ส่วนราชการให้การต้อนรับ
       ซึ่งโครงการนี้ สำนักงานขนส่งจังหวัดหนองคาย ดำเนินการในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.58 มีหน่วยงานเข้าร่วมโครงการ 131 หน่วยงาน เช่น หน่วยงานภาครัฐ สถานประกอบกิจการ สถานศึกษา และชุมชน ซึ่งผ่านเกณฑ์ประเมินผล 60 หน่วยงาน ระดับดีเด่น 5 หน่วยงาน ระดับดี 17 หน่วยงาน รางวัล และองค์กรต้นแบบความปลอดภัยทางถนน 38 หน่วยงาน ได้รับใบประกาศทุกหน่วยงานที่ผ่านเกณฑ์ ผู้ชนะการประกวดบทความได้รับรางวัล 10,000 บาท รางวัลชมเชยสองรางวัลรางวัลละ 5,000 บาท ผู้ชนะการประกวดคำขวัญ ได้รับรางวัล 10,0.00 บาท รางวัลชมเชยสองรางวัล รางวัลละ 5,000 บาท

       สำหรับผลการปฏิบัติตามมาตรการบังคับใช้กฎหมายจราจร ให้เป็นถนนปลอดภัย สร้างวินัยจราจร จำนวน 14 เส้นทาง มีผู้กระทำผิด 2,289 ราย ซึ่งเป็นความผิดในการขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่มากที่สุด มีอุบัติเหตุ 255 ครั้ง บาดเจ็บ 257 ราย เสียชีวิต 8 ราย มีผู้แทนหน่วยงาน ประชาชน และสื่อมวลชน ร่วมงานมากกว่า 200 คน.