วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - ด.ญ.วัย 1 ปี 8 เดือน ถูกกิ๊กแม่ทารุณทางเพศจนตาย แม่กลับพาชู้หลบหนี

สาววัย 23 ปี สามีถูกเรียกประจำการทหารกองเกิน จึงพาลูกสาววัย 1 ปี 8 เดือนไปหากิ๊กหนุ่ม เปิดห้องรีสอร์ทก่อนออกไปซื้อของ ให้ลูกอยู่กับกิ๊ก และถูกทารุณทางเพศทางทวารหนัก กลับมาพบลูกอาการร่อแร่ รีบพาส่งโรงพยาบาล สุดท้ายเด็กเสียชีวิต ซ้ำหลังเกิดเหตุแอบพากิ๊กหนี ถูกตำรวจหนองคายตามรวบได้ทันควัน แต่ยังปากแข็งไม่ยอมรับผิด
       วันนี้( 30 ก.ย.) พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์ ผกก.สภ.เมือง จ.หนองคาย พ.ต.อ.ปรีดา ดวงพุทธา พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ วงษ์สนิทธีรา รองผกก.สส. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ สว.สส. ร.ต.ท.กฤษณะ ธรรมจิตร พนักงานสอบสวน ได้ร่วมกันสรุปแนวทางติดตามคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัย 1 ปี 8 เดือน จนเด็กเสียชีวิต
       สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 06.00 น. วานนี้(29 ก.ย.)ได้มีญาติของ ด.ญ.แอน (นามสมมุติ) วัย 1 ปี 8 เดือน เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่าน้องแอน ถูกทารุณกรรมทางเพศจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีแผลฉีกขาดทางทวารหนัก และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหนองคาย ในเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 29 ก.ย. โดยสงสัยว่านายป๊อบ หรือ นายนพรัตน์ รูปสวย อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 4 ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับ น.ส.พัชรี(ขอสงวนนามกุล-ที่อยู่)มารดาของน้องแอนเป็นผู้กระทำ เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบ และทราบว่าทั้งนายนพรัตน์และน.ส.พัชรี หลบหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว
       จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.40 น. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ ได้ติดตามจับกุม น.ส.พัชรี ได้ที่ศาลาริมทางถนนมิตรภาพหนองคาย-อุดรธานี เขตอ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และติดตามจับกุมนายนพรัตน์ ได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จึงคุมตัวมาสอบสวน โดยได้นำตัวทั้งสองคนตรวจดีเอ็นเอ
       พ.ต.อ.อภิศักด์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ เนื่องจากผู้ถูกกระทำเป็นเด็กหญิง โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตจากการติดเชื้อในช่องท้อง และได้นำศพไปตรวจพิสูจน์ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งรอขั้นตอนการสอบสวน แต่เบื้องต้นนายนพรัตน์ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ จึงต้องรอผลการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ร่วมด้วย
       พ.ต.อ.ปรีดา กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ซึ่ง น.ส.พัชรีมาเปิดห้องเช่าตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อนัดพบกับนายนพรัตน์ ซึ่งทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันแบบลับๆ ขณะที่พ่อของน้องแอนถูกเรียกเข้าประจำการเป็นทหารกองเกินที่ศูนย์ฝึกทหารใหม่สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยครั้งนี้ได้พาน้องแอนมาพักด้วย จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบคราบเลือดบนฟูกที่นอน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
       สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุนายนพรัตน์ ใช้ให้ น.ส.พัชรีออกไปซื้อของข้างนอก หลังจากนั้นนายนพรัตน์ได้พาน้องแอนเข้าไปในห้องน้ำ แล้วเปิดก๊อกน้ำเสียงดังเป็นเวลานาน จากนั้นก็พาน้องแอนออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่เด็กไม่ใส่เสื้อผ้า แล้วพาไปนอนบนที่นอน เมื่อน.ส.พัชรี กลับมาพบว่าลูกสาวมีอาการตัวแข็งและหมดสติ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 29 ก.ย. จากนั้น น.ส.พัชรี ได้ย้อนกลับไปหานายนพรัตน์ แล้วพากันหลบหนี
       จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมในที่สุด แต่ทั้งสองคนยังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพยานแวดล้อมน่าเชื่อว่านายนพรัตน์จะกระทำทารุณทางเพศเด็กหลายครั้ง เนื่องจากเมื่อเด็กเห็นนายนพรัตน์จะมีอาการหวาดกลัว มักจะร้องไห้เสียงดัง ไม่อยากเข้าใกล้ ประกอบกับพบการติดเชื้อในช่องท้อง จึงเป็นเหตุเชื่อได้ว่าอาจจะมีการกระทำชำเราเด็กมาสักระยะหนึ่งแล้ว

       เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายนพรัตน์กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ส่วนน.ส.พัชรี ยังไม่ได้แจ้งข้อหา ต้องรอสอบสวนเพิ่มเติมก่อน. 

หนองคาย - แก๊งปาหินออกอาละวาท

รถบรรทุกสินค้าจอดริมทางรอข้ามฝั่งลาว ถูกวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์มาปาหินใส่รถเสียหาย 3 คัน คาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง
       วันที่ 28 ก.ย. 58 เวลา 21.00 น.  ร.อ.จำนงแสงกุดเรือ นายทหารยุทธการ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัดหนองคาย (กกล.รส.จว.นค.) ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดตรวจสินค้าของด่านศุลกากร ถนนเสด็จ ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย ว่ามีเหตุแก๊งวัยรุ่นใช้ก้อนหินขว้างใส่รถบรรทุกสินค้าที่จอดอยู่หน้าศุลกากรหนองคาย จนได้รับความเสียหาย
       จึงสั่งการให้ จ.ส.อ.พิเชษฐ์ เชิดชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ กกล.รส.จว.นค. หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย พร้อมประสานพนักงานสอบสวน และกำลังตำรวจ สภ.เมืองหนองคายออกไปตรวจสอบ
       พบรถบรรทุกขนส่งสินค้าไปยัง สปป.ลาว จอดริมถนน 3 คัน ถูกปาด้วยก้อนหินขนาดใหญ่จนได้รับความเสียหาย คันแรกเป็นรถเทลเลอร์ หมายเลขทะเบียน 70-1538 อุดรธานี ได้รับความเสียหายที่กระจกมองข้างด้านขวาแตกละเอียด คันที่ 2 เป็นรถเทลเลอร์ หมายเลขทะเบียน 70-6562 ขอนแก่น ได้รับความเสียหายที่ตัวถังด้านหลังคนขับบุบ และคันที่ 3 เป็นรถบรรทุก 10 ล้อ ได้รับความเสียหายที่กระจกมองข้างด้านขวาแตกละเอียดเช่นกัน
       จากการสอบถามนายถัน เสนานุช อายุ 57 ปี อยู่บ้านหมู่ 6 ต.โพธิ์ศรีสำราญ อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี คนขับรถขนส่งสินค้าหมายเลขทะเบียน 70-1538 อุดรธานี และนายอาณัฐ กวนสีรัก อายุ 30 ปี อยู่บ้านหมู่1 ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ให้การว่า ได้จอดรถเพื่อพักผ่อนและรอตรวจสินค้าตามขั้นตอนทางศุลกากรในช่วงเช้าขนส่งสินค้าไปยัง สปป.ลาว  มีวัยรุ่น 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดทะเบียน และจำสีไม่ได้
       เมื่อวันรุ่นขับขี่ถึงจุดที่จอดรถ คนที่นั่งซ้อนท้ายได้ลุกขึ้นขว้างก้อนหินเข้าใส่รถบรรทุกสินค้าได้รับความเสียหาย แล้วเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร จึงเก็บก้อนหินไว้เป็นหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามวัยรุ่นทั้ง 2 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

หนองคาย - ประกวดบทความคำขวัญ "มาตรการความปลอดภัยทางถนน ทางรอดของชีวิต"

ขนส่งจังหวัดหนองคาย ประกาศผลการประกวดบทความคำขวัญ "มาตรการความปลอดภัยทางถนน ทางรอดของชีวิต" ตามโครงการบูรณาการสร้างองค์กรต้นแบบความปลอดภัยทางถนน จ.หนองคาย
       วันที่ 28 ก.ย.58 ที่โรงแรมบุศยรินทร์ อ.เมือง จ.หนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานพิธีประกาศผลการคัดเลือกหน่วยงานต้นแบบความปลอดภัยทางถนนจังหวัดหนองคาย ประกาศผลการประกวดบทความคำขวัญ "มาตรการความปลอดภัยทางถนน ทางรอดของชีวิต" พร้อมมอบใบประกาศเกียรติคุณ เกียรติบัตร มอบรางวัล และจัดนิทรรศการฯ ตามโครงการบูรณาการสร้างองค์กรต้นแบบความปลอดภัยทางถนนจังหวัดหนองคาย โดยมี นายอโณทัย ธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายกล่าวรายงาน และนายสมหวัง ทองขาว ขนส่งจังหวัดหนองคาย นายพีระพล ยังขาว ปภ.จ.หนองคาย และหน.ส่วนราชการให้การต้อนรับ
       ซึ่งโครงการนี้ สำนักงานขนส่งจังหวัดหนองคาย ดำเนินการในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.58 มีหน่วยงานเข้าร่วมโครงการ 131 หน่วยงาน เช่น หน่วยงานภาครัฐ สถานประกอบกิจการ สถานศึกษา และชุมชน ซึ่งผ่านเกณฑ์ประเมินผล 60 หน่วยงาน ระดับดีเด่น 5 หน่วยงาน ระดับดี 17 หน่วยงาน รางวัล และองค์กรต้นแบบความปลอดภัยทางถนน 38 หน่วยงาน ได้รับใบประกาศทุกหน่วยงานที่ผ่านเกณฑ์ ผู้ชนะการประกวดบทความได้รับรางวัล 10,000 บาท รางวัลชมเชยสองรางวัลรางวัลละ 5,000 บาท ผู้ชนะการประกวดคำขวัญ ได้รับรางวัล 10,0.00 บาท รางวัลชมเชยสองรางวัล รางวัลละ 5,000 บาท

       สำหรับผลการปฏิบัติตามมาตรการบังคับใช้กฎหมายจราจร ให้เป็นถนนปลอดภัย สร้างวินัยจราจร จำนวน 14 เส้นทาง มีผู้กระทำผิด 2,289 ราย ซึ่งเป็นความผิดในการขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่มากที่สุด มีอุบัติเหตุ 255 ครั้ง บาดเจ็บ 257 ราย เสียชีวิต 8 ราย มีผู้แทนหน่วยงาน ประชาชน และสื่อมวลชน ร่วมงานมากกว่า 200 คน.

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - ชายวัย 41 ลงเล่นน้ำในหนองน้ำ ตะคริวกินดับ

ชายวัย 41 ลงเล่นน้ำในหนองน้ำของหมู่บ้าน โชคร้ายตะคริวกินจมน้ำหาย ต้องระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัยลงงมนานกว่าชั่วโมงจึงพบศพ
       วันนี้( 26 ก.ย. 58)  ร.ต.ท.เชาวลิต ศรีไพร พงส.สภ.ศรีเชียงใหม่ รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุคนจมน้ำที่หนองน้ำของหมู่บ้าน หมู่ 10 ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ขณะนี้ยังหาศพไม่พบ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมนำเรือและนักประดาน้ำจาก ขรข.เขตหนองคาย และกู้ภัยประจักษ์หนองคาย
       ที่เกิดเหตุบริเวณหนองน้ำประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยลงงมหาศพนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถงมร่างขึ้นมาได้ ทราบชื่อว่า นายณัฐวุฒิ นวลคำสิงห์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 3 ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย สภาพศพสวมกางเกงยีนส์ขาสั้น ไม่สวมเสื้อ ไม่มีร่องรอยบาดแผลของการถูกฆาตกรรม ผลการชันสูตรศพพบเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ
       จากการสอบถามผู้พบเห็นเหตุการณ์  ทราบว่าผู้ตายลงไปเล่นในหนองน้ำแห่งนี้  ซึ่งอยู่บริเวณหน้าวัดจันทราวาส  จู่ๆ นายนายณัฐวุฒิได้ร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อชาวบ้านเห็นก็พยายามจะช่วยเหลือ แต่ไม่ทัน จมน้ำหายไป ทั้งนี้หลังเกิดเหตุคาดว่าผู้ตายน่าจะเกิดตะคริว ทำให้ผู้ตายไม่สามารถช่วยตัวเองได้และจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงมอบศพให้กับญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.

อุดรธานี - ชายวัย 49 ปี กายเป็นศพในสวนหลังบ้าน ตำรวจคาดเมาสุราพลัดตกน้ำเสียชีวิต

พบศพชายวัย 49 ปี ลอยน้ำเสียชีวิตอยู่ที่สระน้ำในสวนหลังบ้านนาน 3 วัน กระทั่งพี่สาวมาพบเป็นศพ ตำรวจคาดผู้ตายเมาสุรา เป็นเหตุให้พลัดตกน้ำเสียชีวิต
       วันนี้ (26 ก.ย. 58) เวลา 08.45 น. พ.ต.ต.อัมพร ปลัดพรมมา พงส.ผู้ชำนาญการ สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุพบศพลอยน้ำเสียชีวิตที่สระน้ำหลังบ้านเลขที่ 6 หมู่ 7 ต.ข้าวสาร อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อมนายแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านผือ และทีมกู้ภัยร่วมใจท่าบ่อ
       ที่เกิดเหตุพบศพ นายนวลสี วงษ์คำ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 หมู่ 1 ต.ข้าวสาร อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี จมน้ำเสียชีวิตสภาพศพขึ้นอืดคว่ำหน้า สภาพสวมกางเกงขาสั้น ใส่เสื้อยืด แพทย์ชันสูตรศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน
       สอบถาม นางคัมภีร์ อุฮาด อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 7 ต.ข้าวสาร อ.บ้านผือ ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้ตายทราบว่า ผู้ตายได้มาเยี่ยมตนที่บ้านเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 58 และดื่มสุราจนเมาตามปกติของผู้ตาย เมื่อเมาได้ที่ก็ขอตัวไปนอนที่กระท่อมที่อยู่หลังบ้าน ซึ่งพอตอนเช้าตนเดินไปดูก็ไม่พบผู้ตายแล้ว คิดว่าน่าจะกลับบ้านแล้ว จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 ของเช้าวันนี้(26 ก.ย.) ตนเดินไปหลังบ้านพบศพลอยขึ้นอยู่ในคลอง ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ
       เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายได้เมาสุราอย่างหนักเป็นเหตุให้พลัดตกน้ำจนเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นญาติๆ ไม่มีใครติดใจในการเสียชีวิตนายนวลสี และอนุญาตมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - กระบะยางแตกพุ่งข้ามเลนชนกระบะอีกคัน บาดเจ็บนับ 10 ราย

เกิดอุบัติเหตุรถกระบะยางล้อหลังแตก เสียหลักข้ามเลนมาชนกับรถกระบะอีกคัน ส่งผลมีผู้บาดเจ็บนับ 10 ราย
       วันนี้ (23 ก.ย. 58)  ร.ต.ท.กฤษณะ ธรรมจิตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก  บริเวณถนนมิตรภาพหนองคาย-อุดรธานี ตรงข้ามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดหนองคาย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองคาย และกู้ภัยประจักษ์ จุด อ.เมืองหนองคาย
       โดยที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ แบบแค็บ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บห 6245 อุดรธานี จอดในช่องทางเดินรถที่ 3 ส่วนคู่กรณีเป็นรถกระบะอีซูซุ แบบแค็บ สีเขียว ทะเบียน บธ 8083 หนองคาย เสียหลักตกข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 4 คน หญิง 6 คน รวม 10 คน ในจำนวนนี้มีเด็กหญิงวัยประมาณ 1 ปี อยู่ด้วย
       สอบถามเบื้องต้นทราบว่า รถกระบะโตโยต้า วีโก้ มีนายอุทัย สร้างช้าง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 243 หมู่ 12 ต.คอกช้าง อ.สระใคร จ.หนองคาย เป็นคนขับและผู้หญิง 1 คนนั่งมาด้วย มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองหนองคาย พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นจุดกลับรถ ยางล้อหลังด้านขวาเกิดแตก ทำให้รถเสียการควบคุม ข้ามเลนมาอีกฝั่งหนึ่ง เป็นจังหวะเดียวกับรถกระบะอีซูซุ ที่มีนายมาโนช อ่อนทอง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 186 หมู่ 8 ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ขับมาตามปกติ มุ่งหน้าไปยังจังหวัดอุดรธานี  และรถกระบะโตโยต้า ได้พุ่งชนรถกระบะอีซูซุจนหน้ารถทั้งสองคันพังยับ รถกระบะอีซูซุ เสียหลักลงข้างทาง
       ผู้โดยสารที่มากับรถอีซูซุ 8 คน บางส่วนนั่งหลังกระบะกระเด็นกระดอนออกจากรถ ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ และแผ่นหลัง ไม่มีผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่รีบนำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมด ส่งโรงพยาบาลหนองคาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง 

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - น้ำป่าไหลหลากพัดถนนและสะพาน

เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก พัดถนนและสะพานทางขึ้นวัดผาตากเสื้อ ได้รับความเสียหาย มีนักท่องเที่ยว 70 คน เดินทางออกจากวัดฯไม่ได้
       วันนี้(22 ก.ย. 58) ที่บริเวณถนนทางขึ้นวัดผาตากเสื้อ หมู่ที่ 1 ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวัน  ทำให้มีน้ำป่าไหลหลาก กระแสน้ำไหลเชี่ยวส่งผลให้ถนนและสะพานทางขึ้นวัดผาตากเสื้อ พังได้รับความเสียหาย
       สำหรับวัดผาตากเสื้อ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพุทธที่สำคัญของจังหวัดหนองคาย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปทำบุญในวันนี้จำนวนมาก ติดอยู่บนวัดไม่สามารถเดินทางลงมาได้ จำนวน 70 คน เนื่องจากเส้นทางถูกกระแสน้ำตัดขาด โดยขณะนี้ทาง อบต.ผาตั้ง อ.สังคม , หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวลงมาจากวัดฯ
       นอกจากนั้น ยังสั่งห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำบริเวณน้ำตกธารทอง  เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลลงไปยังน้ำตกธารทอง มีกระแสน้ำเชี่ยวและไหลแรงมาก อาจทำให้เกิดอันตรายได้ และขณะนี้น้ำได้ลดลงและนักท่องเที่ยวเดินทางออกจากพื้นที่ได้แล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - ลุยตัดสวนยางพารารุกป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย รอง.ผอ.รมน.จังหวัดหนองคาย นำทีมสนธิกำลังทหาร ป่าไม้ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ลุยตัดสวนยางพารารุกป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีจ่อคิวโค่นสวนยางอีกเกือบพันไร่
       วันที่ 20 กันยายน 2558 นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พ.อ.วรากรณ์ ทูคำมี รอง.ผอ.รมน.จังหวัดหนองคาย, นายพิชิต สมบัติมาก ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย, นายชัชวาล เอื้อสุวรรณ หัวหน้าศูนย์ประสานงานป่าไม้หนองคาย, นายนพดล วิริยะยุทธ นายอำเภอสังคม นำทีมสนธิกำลังทหาร ป่าไม้ ตำรวจ อาสาพิทักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ อบต.ผาตั้ง เปิดยุทธการทวงคืนผืนป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกบุกรุกปลูกยางพารา อ้างถึงหนังสือจังหวัดหนองคาย ที่ นค 0013.3/008847 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2558 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าพรายพร้าว-แก่งไก่
        โดยนำเจ้าหน้าที่ตัดโค่นต้นยางพาราของ นายสุทน อินทราณี และนางโฮม ก้านกิ่งเมือง ในเนื้อที่จำนวน 29 ไร่ 3 งาน หมู่ที่ 5 บ้านห้วยไซงัว ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ด้วยวิธีการโค่นยางพาราออก 60 % เหลือไว้ 40 % เป็นการตัด 3 แถว เว้น 2 แถว ตามหลักวิชาการในพื้นที่ที่ตัดออก 60% และให้ดำเนินการปลูกป่าท้องถิ่นทดแทนตามความเหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาการบุครุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่เป้าหมาย เอโอ 1 ในการดำเนินการตามแผนบังคับใช้กฎหมายพื้นที่บุกรุกป่าปลูกยางพารา ตามยุทธการทวงคืนผืนป่า ท้องที่จังหวัดหนองคาย
        ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า กรณีพื้นป่าแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 29 ไร่ เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเราดำเนินคดีถึงที่สุดแล้ว กระบวนการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องมาดูในเรื่องทวงพื้นที่คืน และยังมีตัวอย่างอยู่ก็ต้องดำเนินการตัดต้นยางออกจากพื้นที่ กรณีนี้เจ้าของพื้นที่ได้ทำหนังสือยินยอมให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย มาช่วยในการที่จะตัดต้นยาง ก็มีหลายหน่วยมาช่วยกันสนับสนุนทั้งทหาร ตชด. และอำเภอสังคม นำเจ้าหน้าที่มาช่วยกันตัดต้นยางในวันนี้
       เราก็คงจะต้องทำไปจนถึงที่สุดแล้วสำหรับ เอโอ 1 สำหรับ เอโอ 3 นั้นยังอยู่ในขั้นตอนที่จะทำให้ครบถ้วนตามขั้นตอนของข้อกฎหมาย คิดว่าในเดือนตุลาคมในพื้นที่ เอโอ 3 ที่เป็นนายทุนกำลังดำเนินคดี น่าจะดำเนินการได้ครบถ้วน ตามโรดแน็บที่กำหนดไว้ให้เสร็จสิ้นประมาณเดือนธันวาคม เห็นว่าต้นเดือนตุลาคมคงดำเนินการได้เพราะว่าตามขั้นตอนเลื่อนเวลาของข้อกฎหมาย ลักษณะนี้ก็ได้มีการประชาสำพันธ์ให้พี่น้องในพื้นที่ได้รับทราบพื้นที่ที่ควรเป็นพื้นที่ป่าที่สงวนไว้ให้ต้นน้ำลำธารในขนะนี้  ในพื้นที่ เอโอ 1 ประมาณร่วมๆ 10 คดี เอโอ 3 มีอยู่ 10 กว่าแปลง เนื้อที่ก็ประมาณร่วมๆ 1,000 ไร่.

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - เกิดอุบัติเหตุ นักศึกษาสาว ขี่จักรยานยนต์ดับคาที่ ขณะกำลังไปสอบวันสุดท้าย

นักเรียนสาว ปวช.ที่หนองคายโชคร้าย ออกจากปั๊มเติมน้ำมัน ถูกรถฟอร์จูนเนอร์ของหญิงชาวลาวพุ่งชนท้าย คอหักตายคาที่ ส่วนรถยนต์เสียหลักพลิกค่ำเสียหายด้วย
       วันนี้ (18 ก.ย. 58) พ.ต.ท.ไตรเทพ ไตรยางค์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต บริเวณจุดกลับบ้านเยื้องปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนมิตรภาพ หนองคายอุดรธานี จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองคาย และมูลนิธิสว่างคงคาธรรมสถาน
       ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาววัยรุ่นในชุดนักศึกษา ทราบว่าชื่อ น.ส.อมินตรา ภูพันนา อายุ 17 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ต.หนองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นักเรียนชั้น ปวช.ปี 2 แผนกบัญชี วิทยาลัยอาชีวศึกษาหนองคาย นอนเสียชีวิตอยู่ใกล้รถจักรยานยนต์ ยี่ฮ้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีแดง ทะเบียน ขพม 713 ร้อยเอ็ด สภาพกระดูกต้นคอหักเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที
       ใกล้กันพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน กค 5789 ราชบุรี พลิกคว่ำอยู่ร่องเกาะกลางถนน โดยมีคนขับติดอยู่ในรถทราบชื่อ นางบุน ธรรมวงษา อายุ 31 ปี อยู่บ้านตาดทอง เมืองสีโคดตะบอง แขวงกำแพงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เป็นคนขับและได้รับบาดเจ็บมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลหนองคาย
       เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุและสอบสวนทราบว่า น.ส.อมินตรา ผู้ตาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากปั๊มน้ำมัน เพื่อจะไปเข้าสอบวันสุดท้ายที่วิทยาลัย จากนั้นขี่รถออกจากปั๊มเพื่อจะเลี้ยวตรงจุดกลับรถ เป็นจังหวะเดียวกับที่นางบุน ขับรถยนต์สวนมาพอดี ทำให้ชนประสานงาอย่างจัง และรถยนต์จะตกลงไปในร่องกลางถนนพลิกคว่ำได้รับความเสียหาย และทำให้ น.ส.อมินตรา เสียชีวิตคาที่ทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนในรายละเอียด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนศพผู้เสียชีวิต ญาติได้รับกลับไปบำเพ็ญกุศลแล้ว.

หนองคาย – รวบสองพี่น้องชาวลาว ลักลอบนำยาบ้ากว่าหมื่นเม็ดส่งคนไทย สารภาพรับจ้างขนคนละ 25,000 บาท

เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย สนธิกำลังหลายหน่วยจับสองพี่น้องชาวลาวลักลอบนำยาบ้ากว่าหมื่นเม็ดส่งคนไทย ขณะเตรียมขึ้นรถโดยสารประจำทางจากหนองคาย เข้ากรุงเทพฯ สารภาพรับจ้างขนได้ค่าจ้างคนละ 25,000 บาท
       คืนวันที่ 17 ก.ย. 58 ที่ผ่านมา ที่ห้องสืบสวน กองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.จว.หนองคาย, พ.ต.อ.เอกพัศ พานุรักษ์ ผกก.3 บก.ปส.2, พ.ต.ท.วิเชียร ลี้ไพโรจน์กุล รอง ผกก.ตม.หนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตม.จว.หนองคาย, จนท.ปส., จนท.ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย, ตำรวจน้ำหนองคาย, นรข.หนองคาย, ตชด.245 หนองคาย ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นางวันเงิน ไม่มีนามสกุล อายุ 45 ปี และนางทองวัน กองมะนี อายุ 47 ปี สองพี่น้องชาวลาว ชาวบ้านโพนคำ เมืองไซทานี แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว
       โดยยึดของกลางเป็นยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้าห่อด้วยถุงยางอนามัย ซุกซ่อนไว้ตามลำตัวทั้ง 2 คน คนละ 5 แท่ง รวม 10 แท่ง ประมาณ 10,000 เม็ด ขณะที่กำลังจะขึ้นรถโดยสารประจำทางหนองคาย-กรุงเทพฯ
       จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ทราบว่า พวกตนได้รับจ้างจากหญิงชาวลาวติดต่อให้ตนนำยาบ้ามาส่งให้คนไทย โดยจะให้ค่าจ้างคนละ 25,000 บาท และจ่ายค่าเดินทางให้ก่อนคนละ 5,000 บาท เมื่อทั้ง 2 คน ไปถึง กทม. จะมีชาวไทยโทรศัพท์ติดต่อมาเพื่อรับพวกตนพานำยาบ้าไปส่งที่ภาคใต้ต่อ จากนั้นจึงจะกลับมารับเงินส่วนที่เหลืออีกคนละ 20,000 บาท
       โดยมีชายชาวลาวนำยาบ้าที่บรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้า ห่อด้วยถุงยางอนามัยมาให้พวกตน พวกตนได้นำเชือกฟางมาผูกยาบ้ามัดติดกับลำตัว แล้วใส่เสื้อชั้นในทับอีกชั้นหนึ่ง แล้วเดินทางเข้ามายังสถานีขนส่งจังหวัดหนองคาย ขณะรอรถโดยสารจะเข้ากรุงเทพฯ ก็มาถูกจับกุมตัวดังกล่าว
       จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - จับหนุ่มรถไถ ชาวโพนพิสัย ลักลอบนำเข้ายาบ้า 2,000 เม็ด

ชุดสนธิกำลังป้องกันและปราบปรามยาเสพติดประจำสะพานมิตรภาพไทย ลาว จับกุมผู้ต้องหาชายชาว ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ลักลอบนำเข้ายาบ้าจากประเทศลาว กว่า 2,000 เม็ด
       วันที่ 11 ก.ย.58 ที่ห้องสอบสวนด่านศุลกากรหนองคาย ขาเข้าด่านสะพานมิตรภาพไทย ลาว หนองคาย นายอัศนีย์ เรืองบุญ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสนธิกำลังป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประจำสะพานมิตรภาพไทย ลาว จับกุมตัว นายก้านพเยาว์ บาลลา อายุ 39 ปี ชาว ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย อาชีพขับรถไถ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,963 เม็ด ที่นำเข้ามาจากประเทศลาว
       ทั้งนี้ นายก้านพะเยาว์ ได้เดินทางข้ามมาจากประเทศลาว เวลาประมาณ 07.00 น. เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจค้นก็ได้ตกใจวิ่งหนีมายังบริเวณด้านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว  เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งไล่จับกุม กระทั่งสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้
       นายก้านพะเยาว์ ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพขับรถไถและได้เดินทางไปยังบ้านหลัก 21 แขวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เพื่อไปซื้อยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด ในราคา 100,000 บาท เพื่อนำมาเสพและจำหน่ายให้กลุ่มเพื่อนคนขับรถไถด้วยกัน และได้มัดจำเงินไว้จำนวน 20,000 บาท ที่เหลืออีก 80,000 บาท เมื่อขายยาบ้าหมดแล้วจึงจะนำเงินไปให้ และก็ซื้อยาบ้ากลับมาขายอีก แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน.

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - คณะกรรมการฝ่ายการศึกษาสงเคราะห์ นิเทศและติดตามผลโครงการพัฒนาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14

คณะกรรมการฝ่ายการศึกษาสงเคราะห์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ นิเทศและติดตามผลโครงการพัฒนาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ เพื่อสนองพระราชประสงค์แห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
       วันนี้ (10 ก.ย. 58) ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ดร.พนม พงษ์ไพบูลย์ ประธานฝ่ายการศึกษาสงเคราะห์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการฯเดินทางนิเทศและติดตามผลโครงการพัฒนาในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 จังหวัดหนองคาย เพื่อส่งเสริมและพัฒนาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์เพื่อสนองพระราชประสงค์แห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพระกรุณาก่อตั้งมูลนิธิฯ ซึ่งในปี 2557 มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯได้ให้การสนับสนุนงบประมาณโรงเรียนฯระดับประถมศึกษาโรงเรียนละ 200,000 บาท โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นโรงเรียนละ 300,000 บาท และโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนละ 500,000 บาท
       นอกจากนั้น ประธานในพิธีได้มอบนโยบายและนิเทศติดตามผล ชี้แนะแนวทางการปฏิบัติตามโครงการเพื่อการพัฒนาโรงเรียน จากนั้นคณะฯ ได้เยี่ยมชมผลงานและนิทรรศการของนักเรียนและโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 ซึ่งได้เน้นและส่งเสริมให้นักเรียนให้เรียนรู้ด้านวิชาการและด้านอาชีพ ควบคู่กันไปด้วย โดยมี นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอเมืองหนองคาย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและคณะครู นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 จังหวัดหนองคาย ให้การต้อนรับ และนำเสนอผลการดำเนินโครงการพัฒนาโรงเรียน ต่อคณะกรรมการฯ
       สำหรับในส่วนของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 14 จังหวัดหนองคาย เป็นโรงเรียนระดับเปิดสอนระดับปฐมวัย ถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และปัจจุบันมีนักเรียน 1,005 คน  ครูและบุคลากร รวม 68 คน โรงเรียนจะเน้นการส่งเสริมให้นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต และคุณธรรมเป็นหลักในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้หากนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีผลการเรียนเฉลี่ย 5 เทอมการศึกษา 3.50 ขึ้นไป ก็จะได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ อีกด้วย.

หนองคาย - จังหวัดหนองคาย แถลงผลงานของจังหวัดในรอบ 1 ปี “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คืนความสุข ให้กับคนในจังหวัดหนองคาย”

       วันนี้ (10 ก.ย. 58) ที่หอประชุมประจักษ์ศิลปาคม อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นำทีมผู้บริหารระดับสูงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลงานของจังหวัดหนองคายในรอบ 1 ปี มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คืนความสุข ให้กับคนในจังหวัดหนองคายได้รับทราบ
       สำหรับผลงานเด่นของจังหวัดหนองคาย ภายใต้กรอบนโยบายของรัฐบาลและของจังหวัด ประกอบด้วย นโยบายรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้แก่ การป้องกันและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม วาระมหาดไทย ได้แก่ ตามรอยเท้าพ่อ คนไทยรักกัน เมืองสวยน้ำใส เมืองไทยน่าอยู่ ดำรงธรรม ดำรงไทย มหาดไทยใสสะอาด ลดความเหลื่อมล้ำแบ่งปันความสุขและเรียนรู้ค่านิยมไทยก้าวไกลสู่อนาคต การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนของประชาชนได้แก่การแก้ปัญหาความยากจน ภัยธรรมชาติ ที่ดินทำกิน ยาเสพติด การค้ามนุษย์ และด้านโครงสร้างพื้นฐานผลงานเด่นของจังหวัดได้แก่การปกป้องและเชิดชูสถาบัน การจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำของประชาชน หินโงมโมเดลตำบลหินโงม อำเภอเมืองหนองคาย การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวรองรับประชาคมอาเซียน และงานใต้ร่มพระบารมี 188 ปี เมืองหนองคาย
       ส่วนแนวทางการพัฒนาจังหวัดในอนาคตมี 4 มิติ ได้แก่ มิติการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านความมั่นคง และด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการผลงานเด่นของจังหวัดจากหน่วยงานราชการต่างๆ ให้ผู้เข้าร่วมงานและสื่อมวลชนได้ชมผลงานเด่นในรอบปีงบประมาณ 2558 เพื่อนำไปเผยแพร่ขยายผลเพิ่มเติมต่อไป.

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - หนุ่มช่างซ่อมตู้เย็นจะยูเทิร์น สาวใหญ่ขับเก๋งตามหลังชนดับคาที่

เกิดอุบัติเหตุ หนุ่มช่างซ่อมตู้เย็นขับจักรยานยนต์กลับบ้าน ถูกรถยนต์ที่ขับตามหลังมาชนตกร่องกลางถนน คอหัก เสียชีวิตคาที่
       วันที่ 5 ก.ย. 58 เวลา 18.30 น. ร.ต.ท.กฤษณะ ธรรมจิตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตบริเวณจุดกลับรถหน้าโชว์รูมรถยนต์เชฟโรเลต ถนนมิตรภาพหนองคาย-อุดรธานี บ้านคำแค ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองคาย และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างคงคาธรรมสถาน
      ที่เกิดเหตุพบรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีเทา ทะเบียน กง 1905 หนองคาย มีนางปทุมณา โคธิเสน อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 1 ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เป็นคนขับ ด้านหน้ารถพังเสียหาย กระจกแตก ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า แดซ ดัดแปลงเป็นรถวิบาก สีเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มคว่ำอยู่ โดยมี นายประยูร สมสนุก อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 2 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย สวมเสื้อแจ็กเกตสีแดง กางเกงยีนส์สีดำ สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบเป็นคนขับขี่ สภาพคอหัก กระดูกขาซ้ายหัก 2 ท่อน นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณร่องกลางถนน
       สอบถาม นางปทุมณา โคธิเสน คนขับรถปาเจโร่ กล่าวว่า ขณะที่ขับรถมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองหนองคาย เห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวอยู่ด้านหน้าพอมาถึงที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ก็หักรถตัดหน้าในระยะประชิดเพื่อจะเข้าจุดกลับรถ ตนเบรกไม่ทันจึงชนอย่างจัง เป็นเหตุให้ นายประยูร คนขับรถจักรยานยนต์กระเด็นตกไปในร่องกลางถนนดังกล่าว
       ญาติของผู้ตายบอกว่า นายประยูร ผู้ตายทำงานเป็นช่างซ่อมตู้เย็นในเขตตัวเมืองหนองคาย เวลาเกิดเหตุเป็นช่วงที่เดินทางกลับบ้านตามปกติ ซึ่งจะต้องเลี้ยวรถเข้าจุดกลับรถ ก่อนจะเข้าซอยหมู่บ้านคำแค โดยญาติไม่ติดใจอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และจะนำศพไปบำเพ็ญกุศล ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้สอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - ชาวหนองคาย ตื่น!!กระเป๋าปริศนา วางไว้ในด่านสะพานไทย-ลาว

ชาวหนองคายยังคงแตกตื่นไม่หยุด หลังพบกระเป๋าต้องสงสัยวางไว้บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ชุดอีโอดีตรวจสอบ พบเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกาย กระทะ และมีดทำครัว คาดเป็นของนักท่องเที่ยว หรือผู้จะผ่านออกไป สปป.ลาวลืมวางไว้
       วันที่ 3 ก.ย. 58 ร.ต.ท.ยันทิพย์ ทิพยสุต หัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) จังหวัดหนองคาย ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคายว่า พบกระเป๋าเดินทางสีดำต้องสงสัยวางอยู่ชิดเสามุมใกล้โต๊ะกรอกเอกสารขาออกนอกประเทศ บริเวณภายในด่านฯ จึงนำกำลังไปตรวจสอบท่ามกลางประชาชนและนักท่องเที่ยวที่แตกตื่นกับเหตุการณ์ โดยเจ้าหน้าที่ได้กันคนออกจากบริเวณดังกล่าว
       จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่อีโอดีได้ปฏิบัติงานอย่างระมัดระวังตามขั้นตอน โดยใช้กรรไกรค่อยๆ ตัดกระเป๋า และใช้ไฟฉายส่องดูภายในกระเป๋า พบว่าเป็นดัมเบลที่ใช้ออกกำลังกาย กระทะ มีดทำครัว และเสื้อแขนยาวสีดำ ไม่ใช่วัตถุระเบิดแต่อย่างใด จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคายได้ปฏิบัติงานตามปกติ และให้ผู้ที่ถูกกันไว้เดินทางเข้า-ออกตามปกติ
      สอบถามเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในด่านฯ ทำให้ทราบว่ากระเป๋าใบดังกล่าวได้ถูกวางไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในด่านฯ ปรากฏว่าเป็นมุมอับและเป็นช่วงจังหวะที่กล้องสลับการทำงานกัน จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นผู้นำมาวางไว้ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นของนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่จะผ่านออกไป สปป.ลาว วางไว้ขณะที่กรอกเอกสารพิธีการผ่านแดนแล้วลืมวางไว้
       สำหรับเหตุการณ์พบวัตถุต้องสงสัยนี้ จังหวัดหนองคายเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้กลางเมืองหนองคาย ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นกระบอกน้ำ แล้ววันนี้ได้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน จึงสร้างความแตกตื่นให้แก่เจ้าหน้าที่และชาวจังหวัดหนองคายเป็นอย่างมาก 

หนองคาย - ตม.หนองคาย ตรวจเข้มชาวต่างชาติเดินทางเข้าออกด้าน

ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบุคคลในประเทศ เฝ้าระวังเข้าประเทศ ต้องสอบประวัติ พร้อมเพิ่มกำลังชุดสืบสวนหาข่าวชาวต่างชาติอาศัยในประเทศ นำภาพผู้ต้องหาเหตุวางระเบิดแยกราชประสงค์ติดประจำตู้จุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย –ลาว
        เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 58 พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย เรียกประชุมนายตำรวจระดับสารวัตร รองสารวัตรในสังกัด มอบนโยบายที่ได้รับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หลังจากนั้นได้นำภาพผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร รวม 8 ราย มาแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมืองหนองคาย เพื่อใช้ตรวจสอบบุคคลที่ขอออกนอกประเทศ และมีการประสานกับประเทศลาวเพิ่มเติม ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
       พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย กล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบชาวต่างชาติในประเทศเฝ้าระวัง คือ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง จีน หากพบเข้ามาในประเทศให้สอบสวนและทำประวัติ หากมีที่มาไม่ชัดเจนให้ปฏิเสธเข้าประเทศ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะมีขึ้นตามมา ทั้งการค้ามนุษย์และการก่ออาชญากรรมร้ายแรง ประสานกับหน่วยงานข้างเคียงร่วมตรวจสอบ เพิ่มความเข้มงวดทั้งที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว , บริเวณสถานีรถไฟระหว่างประเทศ , จุดผ่อนปรนต่างๆ
       ทั้งสั่งการให้ชุดสืบสวนออกตรวจสอบสถานประกอบการที่พัก โรงแรมต่างๆ หากมีชาวต่างชาติเข้าพักโดยไม่แจ้งให้ตรวจคนเข้าเมืองทราบจะถูกปรับทันที กรณีที่มีชาวต่างชาติสิ้นสุดการอนุญาตแล้วไม่ขออนุญาตอยู่ต่อหากพบต้องดำเนินคดีทันทีเช่นกัน โดยระหว่างนี้ให้เข้มงวดกับชาวอุยกูร์เถื่อน หรือชาวจีนที่ไม่สามารถพูดภาษาจีนได้ ถามตอบไม่รู้เรื่อง ให้ต้องสงสัยไว้ก่อน ต้องสอบประวัติให้ชัดเจนแล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบทุกวัน
       ทั้งนี้ ชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย ผ่านด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ในช่วงเดือน ส.ค. พบว่ามี 1,157 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน 1,065 คน รองลงมาเป็นชาวอินเดีย, ไต้หวัน, ยูเครน และตุรกี ขณะนี้มีชาวจีนอยู่ใน จ.หนองคาย 41 คน ชาวตุรกี 2 คน ซึ่งได้ตรวจสอบประวัติแล้วพบว่า ชาวจีนมาประกอบธุรกิจในตลาดอินโดจีน ส่วนชาวตุรกี มีภรรยาเป็นชาวหนองคาย.

หนองคาย - จับกุมหนุ่ม อ.เฝ้าไร่ พร้อมยาบ้า จำนวน 3,915 เม็ด

เจ้าหน้าที่ทหารชุดสกัดกั้นที่ 1 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมหนุ่มพร้อมยาบ้า จำนวน 3,915 เม็ด ในขณะที่มารับเงินจากสาย สารภาพเป็นเพียงผู้รับจ้างจากผู้ค้าลาวเท่านั้น
       วันที่ 2 ก.ย. 58 ที่หมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 2453  อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ร.ท.กฤษณะ  วรยศ ผู้บังคับหมวดสกัดกั้นที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มตรี,ร.ต.อ.รามสูรย์  บุญช่วย รอง ผบ.ตชด.244 ,ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ  ใจสุข รอง ผบ.รอ้ย ตชด.245 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุม นายจำรัส  สากรม อายุ 22 ปี  บ้านโนนมันปลา ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย พร้อมยาบ้า จำนวน 3,915 เม็ด บรรจุในถุงพาสติดสีฟ้า จักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีเขียว ไม่ติดหมายเลขทะเบียน และ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
       การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาบ้าจาก สปป.ลาว จึงได้ให้สายเข้าทำการล่อซื้อ และนัดส่งยาบ้ากันที่ รีสอร์ทสวนพ่อตา ต.จุมพล อ.โพนพิสัย ห้องหมายเลข  3 เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายจำรัส ฯ ได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มาห้องหมายเลข 3 เพื่อตรวจดูจำนวนเงินที่จะซื้อ
       จากนั้นนายจำรัส ฯ ได้พาสายและเจ้าหน้าที่ซึ่งอำพรางตัวเป็นพ่อค้า ไปเอายาบ้าซึ่งวางไว้ที่บริเวณข้างต้นเสาไฟฟ้า ถนนข้างโรงพยาบาลพิสัย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำการบันทึกที่ หมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 2453
       จากการสอบสวน นายจำรัส ฯ รับสารภาพว่า ยาบ้าจำนวนดังกล่าวเป็นของนางดาว หรือเจ้ดาว บ้านปากงึม เมืองปากงึม  แขวงบลิคำไซ  สปป.ลาว ตนเป็นเพียงคนรับจ้างจากนางดาว ให้นำยาบ้ามาส่งให้กับผู้ค้าชาวไทยและนำเงินส่งให้กับนางดาว เท่านั้น  แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน
       เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.โพนพิสัย ดำเนินการคดีและติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.