วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - ตม.หนองคาย ตรวจเข้มชาวต่างชาติเดินทางเข้าออกด้าน

ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบุคคลในประเทศ เฝ้าระวังเข้าประเทศ ต้องสอบประวัติ พร้อมเพิ่มกำลังชุดสืบสวนหาข่าวชาวต่างชาติอาศัยในประเทศ นำภาพผู้ต้องหาเหตุวางระเบิดแยกราชประสงค์ติดประจำตู้จุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย –ลาว
        เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 58 พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย เรียกประชุมนายตำรวจระดับสารวัตร รองสารวัตรในสังกัด มอบนโยบายที่ได้รับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หลังจากนั้นได้นำภาพผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร รวม 8 ราย มาแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมืองหนองคาย เพื่อใช้ตรวจสอบบุคคลที่ขอออกนอกประเทศ และมีการประสานกับประเทศลาวเพิ่มเติม ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
       พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย กล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบชาวต่างชาติในประเทศเฝ้าระวัง คือ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง จีน หากพบเข้ามาในประเทศให้สอบสวนและทำประวัติ หากมีที่มาไม่ชัดเจนให้ปฏิเสธเข้าประเทศ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะมีขึ้นตามมา ทั้งการค้ามนุษย์และการก่ออาชญากรรมร้ายแรง ประสานกับหน่วยงานข้างเคียงร่วมตรวจสอบ เพิ่มความเข้มงวดทั้งที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว , บริเวณสถานีรถไฟระหว่างประเทศ , จุดผ่อนปรนต่างๆ
       ทั้งสั่งการให้ชุดสืบสวนออกตรวจสอบสถานประกอบการที่พัก โรงแรมต่างๆ หากมีชาวต่างชาติเข้าพักโดยไม่แจ้งให้ตรวจคนเข้าเมืองทราบจะถูกปรับทันที กรณีที่มีชาวต่างชาติสิ้นสุดการอนุญาตแล้วไม่ขออนุญาตอยู่ต่อหากพบต้องดำเนินคดีทันทีเช่นกัน โดยระหว่างนี้ให้เข้มงวดกับชาวอุยกูร์เถื่อน หรือชาวจีนที่ไม่สามารถพูดภาษาจีนได้ ถามตอบไม่รู้เรื่อง ให้ต้องสงสัยไว้ก่อน ต้องสอบประวัติให้ชัดเจนแล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบทุกวัน
       ทั้งนี้ ชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย ผ่านด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ในช่วงเดือน ส.ค. พบว่ามี 1,157 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน 1,065 คน รองลงมาเป็นชาวอินเดีย, ไต้หวัน, ยูเครน และตุรกี ขณะนี้มีชาวจีนอยู่ใน จ.หนองคาย 41 คน ชาวตุรกี 2 คน ซึ่งได้ตรวจสอบประวัติแล้วพบว่า ชาวจีนมาประกอบธุรกิจในตลาดอินโดจีน ส่วนชาวตุรกี มีภรรยาเป็นชาวหนองคาย.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น