เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 58 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)
ได้เผยแพร่เอกสารแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการเรื่องกล่าวหาร้องเรียนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดต่อ นายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์
อดีตนายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ และนายณรงค์ วีระศิริ อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ
อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย หรือสวัสดิภาพของประชาชน
ละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่
หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ศรี ตำแหน่ง
หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตาม พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 73
และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162
จากกรณีทุจริตในการเบิกจ่ายเงินโครงการขอรับเงินสนับสนุนกลุ่มอาชีพสตรีปี 2550
และชี้มูลความผิดอาญา ต่อ นางทีน่า โสตะวงศ์ ภริยามีมูลความผิดทางอาญา
ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรามาตรา 151
มาตรา 157
นอกจากนี้ ยังชี้มูลความผิดทางวินัยกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
และส่งสำนวนการไต่สวนฯ ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยแล้วคือ
นายวิโรจน์ จั่นกรด อดีตปลัดเทศบาลเมืองท่าบ่อ มีความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง
และนายธีระยุทธ เงาศรี ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองท่าบ่อ มีความผิดวินัยร้ายแรง
และมีความผิดอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 ด้วย
กรณีทุจริตในการเบิกจ่ายเงินโครงการขอรับเงินสนับสนุนกลุ่มอาชีพสตรี ปี 2557
โดยในส่วนของความผิดทางอาญา สำนักงาน
ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนการไต่สวนฯ ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
สำหรับการถอดถอนออกจากตำแหน่ง เนื่องจากนายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์
ได้พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว
จึงไม่มีเหตุที่จะต้องส่งเรื่องไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน
เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อีก แต่ให้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ
ป.ป.ช.ให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนทราบ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบต่อไป
สำหรับ นายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์
ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลท่าบ่อ ต่อเนื่องถึงเทศบาลเมืองท่าบ่อ รวม 4 สมัย ก่อนจะลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2555 ซึ่งเป็นการลาออกก่อนครบวาระ 4 ปี ในการดำรงตำแหน่งสมัยล่าสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น