วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - ชาวนาเร่งสูบน้ำเลี้ยงชีวิตข้าวต้นอ่อน และภัยแล้งไร่อ้อยขาดน้ำเริ่มแห้งตาย

       วันนี้ (3 ก.ค. 58) ที่ไร่นาข้าว หมู่ 7 บ้านราษฎร์สามัคคี ตำบลหนองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ชาวนาได้นำเครื่องสูบน้ำลงคลองชลประธาน และต่อท่อยาวเพื่อผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยบังพวน ลงสู่แปลงนาข้าวของตนเอง เพื่อเลี้ยงชีวิตข้าวต้นอ่อนที่ยังไม่แห้งตาย หลังจากน้ำในอ่างเก็บน้ำเริ่มแห้งลง ไม่สามารถระบายน้ำเข้าสู่แปลงนาของชาวบ้านได้ ซึ่งถือเป็นภัยแล้งในรอบกว่า 60 ปี ที่ชาวนาได้พบเจอ และเกษตรกรที่ปลูกอ้อยก็ประสบกับปัญหาฝนทิ้งช่วงมาเป็นเวลานาน ส่งผลกระทบทำให้ต้นอ้อยของเกษตรกรเริ่มแห้งตาย และไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
       นายสมาน มาลาศรี อายุ 46 ปี เกษตรผู้ปลูกข้าว บ้านราษฎร์สามัคคี กล่าวว่า ตั้งแต่ตนทำนามาไม่เคยสูบน้ำเข้านาปี ซึ่งส่วนใหญ่จะสูบน้ำเข้านาปรัง มีปีนี้เป็นปีแรก ซึ่งก็เริ่มสูบน้ำเข้านา จำนวน 6 ไร่ มาได้ 5 วันแล้ว บางรายสูบน้ำเข้านามาได้ 8 วัน หมดเงินไปถึง 3,000 – 4,000 บาทได้ ส่วนตนหมดค่าน้ำมันไปกว่า 1,000 บาท วันหนึ่งหมดค่าใช้จ่ายไปเกือบ 300 บาท แต่น้ำก็ยังไม่พอต่อการเลี้ยงชีวิตข้าวต้นอ่อน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยมาดูแลเรื่องภัยแล้งให้ด้วย
       ส่วนทางด้านของนางบุญเตียน จันทร์ธิราช อายุ 65 ปี ชาวนาบ้านดงนาคำ หมู่ 5 ตำบลหนองนาง กล่าวว่า ปีนี้ทำนาลำบากมาก เพราะเกิดภัยแล้ง ฝนไม่ตก ต้องเร่งน้ำเข้าที่นากันเพื่อเลี้ยงต้นข้าว ตนทำนามาจนถึงอายุ 65 ปี ก็พึ่งเคยพบเคยเห็น ซึ่งในหลายๆ ปีที่ผ่านมาไม่เคยแล้งสักครั้ง พึ่งเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งทุกๆ ปีไม่เคยสูบน้ำเข้านาเพราะน้ำในอ่างเก็บน้ำมีเพียงพอและมีฝนตกลงมา สูบน้ำมาได้ 3 วันหมดเงินไปกว่า 1,000 บาท จึงอยากฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือด้วย ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานไหนลงมาสำรวจความเดือดร้อนของชาวบ้าน
       ส่วนนางสุบรรณ รองแขวง อายุ 39 ปี เกษตรกรผู้ทำไร่อ้อย บ้านราษฎร์สามัคคี กล่าวว่า ตนเองได้ทำการปลูกอ้อยในพื้นที่ 50 ไร่ ถึงแม้ต้นอ้อยจะเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย แต่เนื่องจากช่วงนี้ฝนทิ้งช่วงมานาน และกำลังประสบปัญหาภัยแล้งต้นอ้อยขาดน้ำ ทำให้ต้นอ้อยที่ปลูกใหม่และปลูกไว้ก่อนหน้าต่างขาดน้ำ และกำลังจะแห้งตาย จึงอยากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยทำฝนหลวงให้หน่อย เพื่อช่วยต้นอ้อยไม่ให้ขาดน้ำ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น