เขื่อนห้วยโมง
เร่งผันน้ำเข้าพื้นที่ 3 อำเภอ ของจังหวัดหนองคาย ช่วยชาวนาหน้าแล้ง วันละกว่า
200,000 ลูกบาศก์เมตร
วันนี้ (6 ก.ค. 58) ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง
สำนักชลประทานที่ 5 อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ได้ทำการเร่งสูบน้ำจากแม่น้ำโขงเข้าสู่อ่างเก็บน้ำห้วยโมง
เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยโมงให้เพียงพอต่อความต้องการในพื้นที่ไร่นาของเกษตรกร
และช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยทางโครงการฯ ได้เดินเครื่องสูบน้ำ จำนวน 2 เครื่อง วันละ 16 ชั่วโมง
มีปริมาณสูบน้ำเข้าประมาณวันละ 200,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งปัจจุบันทางโครงการฯได้ดำเนินการสูบน้ำเข้าลำน้ำโมงแล้วกว่า
1.34 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายประละมา สิวาปี
หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง กล่าวว่า
ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำห้วยโมงอยู่ที่ระดับ 6 เมตร 77 เซนติเมตร
ส่วนระดับแม่น้ำโขงอยู่ที่ 2 เมตร 83 เซนติเมตร ซึ่งแม่น้ำห้วยโมงจะอยู่ระดับสูงกว่าแม่น้ำโขงอยู่ที่
+3 เมตร 94 เซนติเมตร ปริมาณน้ำในอ่าง 1,961 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยได้ทำการสูบน้ำโขงเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยโมง
จำนวน 2 เครื่อง วันละ 16 ชั่วโมง โดยเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง จะสูบได้ 2,375
ล้านลูกบาศก์เมตร/วินาที รวมสูบน้ำได้ 273,600 ล้านลูกบาศก์เมตร/วินาที โดยได้ทำการสูบน้ำเข้าอ่างมาตั้งแต่วันที่
26 มิถุนายน 58 เป็นต้นมา
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง
มีสถานีสูบน้ำ 9 สถานี ควบคุมทั้งหมด 3 อำเภอ คือ อำเภอท่าบ่อ อำเภอศรีเชียงใหม่
และอำเภอโพธิ์ตาก มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปี 51,191 ไร่
ซึ่งปัจจุบันมีพี่น้องเกษตรกรทำการปลูกข้าวอยู่ที่ 35,543 ไร่ คาดว่าน้ำที่สูบเข้าอ่างเก็บน้ำ
จะสามารถบรรเทาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรได้ตลอดหน้าแล้งนี้ และขอวิงวอนเกษตรกรชาวนาทั้งในและนอกเขตชลประทาน
ขอให้ทำนาปลูกข้าวในฤดูกาลแค่ครั้งเดียว เพื่อการประหยัดน้ำไว้สำหรับอุปโภคบริโภคในคราวต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น